รูปแบบเกมที่แฟนๆนึกว่าจะเคี้ยวหมู ที่ไหนได้นี่มันคือหมูเขี้ยวตัน การยิงประตูขึ้นนำ 2 ลูกไม่ได้ช่วยให้เกมได้รับชัยชนะหากยังไม่มีเสียงนกหวีดดัง การท้าทายศักดิ์ศรีราชันย์ชุดขาว เพราะวอร์ซอว์ไม่สามารถแพ้ได้แล้วหากต้องการที่จะลุ้นเพื่อที่จะเข้ารอบต่อไป
เริ่มเกมได้เพียงนาทีเดียว แกเร็ธ เบล ซัดประตูฉลองการต่อสัญญาใหม่ เป็นประตูแรก โดยที่โรนัลโด้โหม่งเสยต่อให้กับ แกเร็ธ เบล ได้วอลเลย์ด้วยซ้าย อย่างสวยงาม โดยลูกนี้ถูกยกขึ้นมาเปรียบเทียบกับลูก ที่ซีดานยิงในปี 2002
หลังจากนั้นไม่นานเจ้าบ้านได้สวนกลับมาด้วยการยิงในระยะไกล น้ำหนักบอลดี แต่ยังไม่ตรงกรอบ ในนาทีที่ 9
ต่อมานาทีที่ 16 เบลได้โอกาสในการยิงลูกฟรีคิกแต่แฉลบข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
เกมบุกยังคงต่อเนื่องในนาทีที่ 17 ลูกเตะมุมจากโครสเปิดให้วารานขึ้นโหม่งแต่ถูกปัดออกไปได้
ราชันย์ชุดขาวยังบุกอย่างไม่หยุด นาทีที่ 19 ยิงจากฝั่งซ้ายปั่นไซส์โค้ง แต่ก็ยังไม่ผ่าน มาลาร์ซ
นาทีที่ 25 แกเร็ธ เบล โหม่งบอลไปที่เสาแรก แต่มาลาร์ซกระโดดสุดตัวปัดเอาไว้ได้ โรนัลโด้วิ่งเข้ามาซ้ำแต่ยังติด ผู้เล่นจากวอร์ซอร์
การสวนกลับของลีเกียได้ส่องไกล แต่หลุดกรอบ ไปอย่างน่าเสียดาย ในนาทีที่ 27
นาทีที่ 28 โรนัลโด้ ได้โหม่ง แต่บอลข้ามคานออกไป
นาทีที่ 31 แกเร็ธ เบล ได้ซัดเต็มข้อแต่ไม่ตรงกรอบ
เกมการบุกอย่างต่อเนื่อง ประสบผลสำเร็จในนาทีที่ 35 กลายเป็นประตูที่ 2 จากการยิงของเบนเซม่า
นาทีที่ 37 โรนัลโด้ ยิงบอลจากฝั่งขวา แต่ มาลาร์ซ เซฟไว้ได้
วอร์ซอว์ไม่ยอมแพ้กัดฟันไล่บอลอย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะทวงประตูคืน โอฌิฌา ยิงเต็มแรงพุ่งเข้าตุงตาข่าย อย่างสวยงาม ในนาทีที่ 40
เริ่มต้นครึ่งหลัง ราชันย์เล่นได้ไม่ดีเหมือนในครึ่งแรก นาทีที่ 58 ถูกตีเสมอจาก ราโดวิช ยิงประตูฉีดยาพุ่งเข้าประตูไปอย่างง่ายดาย โดยที่นาบาสไม่สามารถทำอะไรได้
แกเร็ธ เบล พยายามที่จะทำประตูเพิ่มจากการบุกจากทางฝั่งซ้าย กดเต็มแรงแต่ก็ยังไม่ผ่านมือ มาลาร์ซ ในนาทีที่ 59
ความโหดร้ายเกิดขึ้น กับ เรอัล มาดริด บ้างด้วยการที่ เจ้าบ้านยิงประตูขึ้นนำในนาทีที่ 83 มูแล็งวิ่งเข้าไปซัดที่นอกกรอบเขตโทษ ผ่านนาบาสเป็นประตูสวยงาม
เศร้าสลดได้ไม่นาน นาทีที่ 85 ราชันย์ชุดขาวไล่ตามมาเป็น 3-3 โควาซิ ซัดด้วยซ้าย กลายเป็นเกมส์ผลัดกันรุกผลัดกันรับอย่างสุดมันส์